การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้รับการการสถาปนาตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นรัฐวิสาหกิจ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย ดำเนินธุรกิจหลัก ผลิต จัดให้ได้มา จัดส่ง และจัดจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่ ประชาชนในส่วนภูมิภาคทกุ จังหวัดทั่วประเทศไทย ยกเวน้ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ กฟภ. ยังดำเนินธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการพลังงานไฟฟ้า ทั้งในเชิงธุรกิจที่เป็นธุรกิจเสริม และธุรกิจใหม่
คุณสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกล่าวว่า “กฟภ. มีพื้นที่รับผิดชอบจำหน่ายไฟฟ้า 74 จังหวัด คิดเป็นร้อยละ 99 ของพื้นที่ประเทศไทย มีจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้า 20 ล้านราย (ราว 58 ล้านคน) มีนโยบายหลักคือ บริการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ประชาชนมีไฟฟ้าใช้ทุกครัวเรือน รวมถึงพื้นที่ทุรกันดารห่างไกล พื้นที่เกาะ แต่บางพื้นที่ กฟภ. ก็ไม่สามารถขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าได้ เช่น พื้นที่ป่าสงวน พื้นที่หวงห้าม เป็นต้น”
“กฟภ. ได้จัดทำแผนงานระยะยาว 5 ปี โดยมีโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายเขตไฟฟ้าให้ทุกครัวเรือนได้มีไฟฟ้าใช้ อีกทั้งยังมีกิจกรรมเพื่อสังคมที่มีงบประมาณรองรับ เช่น โครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การทำฝาย การปลูกป่า และสาธารณสุข” ท่านผู้ว่าฯ สมพงษ์ กล่าว
ในการดำเนินงานร่วมกับทีมวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) ท่านผู้ว่าฯ สมพงษ์ เล่าว่า “กฟภ. ได้สนับสนุนงบประมาณและบุคลากรในโครงการไอซีทีเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต สำหรับชุมชนชายขอบ : การจัดการพลังงานทดแทนของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา (บ้านหม่องกั๊วะ จังหวัดตาก) ซึ่งอยู่ในพื้นที่โครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี โดยสำนักงาน กฟภ. จังหวัดตาก ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้การอบรมและการบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าแก่ผู้นำชุมชนและตัวแทนหมู่บ้าน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ แต่ในกรณีที่เกิดปัญหาใหญ่ที่ไม่สามารถแก้ไขได้เอง เจ้าหน้าที่ กฟภ. จะเข้ามาดำเนินการแก้ปัญหาให้ ซึ่งการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ กฟภ. กับชุมชนมีความราบรื่นดีเพราะเจ้าหน้าที่ กฟภ. เป็นคนในพื้นที่ หรือหากติดขัด ชุมชนก็มีล่ามช่วยสื่อสารให้”
เมื่อถามถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการในลักษณะนี้เกิดอย่างต่อเนื่อง ยั่งยืน และมีการขยายผล ท่านผู้ว่าฯ สมพงษ์กล่าวว่า “กฟภ. มกี ารจดั ทำ โครงการขยายเขตไฟฟ้าใหบ้านเรือนราษฎรรายใหม่ เพื่อให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้ในทุกครัวเรือนและพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนตามชายขอบได้มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งหากมีทะเบียนบ้านที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่หวงห้าม พื้นที่ป่าสงวน หรือพื้นที่ลุ่มน้ำ ชั้น 1 เอ ก็สามารถขอใช้ไฟฟ้าได้ และเมื่อมีการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าแล้วก็อยากให้ชุมชนช่วยกันดูแล หากเกิดปัญหาอยากให้แก้ไขในเบื้องต้นก่อน เพราะการคมนาคมที่ค่อนข้างลำบากก็อาจทำให้การเข้าไปแก้ไขใช้เวลานาน”
ท่านผู้ว่าฯ สมพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “การทำงานร่วมกับ ENTEC ที่ผ่านมามีความราบรื่นดี กฟภ. ยินดีให้ความร่วมมือ และพร้อมสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของ สวทช. ต่อไป เพราะที่ผ่านมา กฟภ. และ สวทช. มีโครงการที่มีความร่วมมือกันอยู่มาก ในอนาคตอยากเห็นงานวิจัยที่มีคุณภาพและใช้งานได้จริง”